เขียนโดย : นายยมนา ปานันท์
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 555ราย ระหว่างวันที่ 12- 20 ธันวาคม 2563 ในหัวข้อ “คนเชียงใหม่กับความพร้อมในการรับมือหมอกควัน” มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนเชียงใหม่เกี่ยวกับความคิดเห็นและความพร้อมต่อสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่
ผลการสำรวจความคิดเห็นของคนเชียงใหม่ต่อแนวโน้มของการเกิดปัญหาหมอกควันในปีนี้ พบว่า ร้อยละ 49.63 เห็นว่าสถานการณ์ปัญหาหมอกควันจะมีความรุนแรงเท่ากับปีที่ผ่านมา รองลงมาร้อยละ 39.67 เห็นว่าจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจาก 1) ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เกษตรกรจะมีการเผาเศษวัสดุที่เหลือจากการทำการเกษตร 2) เกิดการลักลอบการเผาป่าเพื่อประโยชน์ในการหาของป่า และ 3) ปัจจัยด้านสภาพอากาศที่แห้งทำให้เกิดไฟป่าได้ง่ายยิ่งขึ้น มีเพียงร้อยละ 10.70 เท่านั้นที่เห็นว่าจะมีความรุนแรงลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเข้มงวดของมาตรการภาครัฐและในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนตกเพิ่มขึ้นจึงส่งให้ปัญหาหมอกควันอาจเกิดน้อยลงและเมื่อการสอบถามถึงการพบเจอกับหมอกควันในช่วงเวลาปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 72.33 ยังไม่พบเจอปัญหาหมอกควันในช่วงนี้ มีเพียงร้อยละ 27.67 เท่านั้นที่เริ่มพบเจอปัญหาหมอกควันแล้วในปัจจุบัน เมื่อสอบถามถึงการเตรียมพร้อมในการป้องกัน/รับมือ ปัญหาสถานการณ์หมอกควัน พบว่าชาวเชียงใหม่กว่า ร้อยละ 74.91 เริ่มมีการเตรียมตัวรับมือกับปัญหาหมอกควัน โดย อันดับ 1 มีการเตรียมจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันและลดปัญหาหมอกควัน เช่น หน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ (ร้อยละ 72.91) อันดับ 2 มีการจัดเตรียมสถานที่อยู่ อาศัยให้สะอาด เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นควัน (ร้อยละ 45.99) อันดับ 3 ใช้วิธีการปลูกต้นไม้เพื่อลดปัญหาฝุ่นควัน (ร้อยละ 30.25) มีเพียงร้อยละ 25.09 เท่านั้นที่ยังไม่มีการเตรียมความพร้อม และเมื่อสอบถามถึงความคาดหวังต่อการลดลงของปัญหาหมอกควันในปีนี้ พบว่า ร้อยละ 61.16 ไม่ได้คาดหวัง เนื่องจาก ปัญหาหมอกควันมักจะเกิดขึ้นทุกปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 38.84 คาดหวังว่าปัญหาหมอกควันคลี่คลาย โดยหวังให้ภาครัฐมีมาตรการที่ดีสามารถลดการเกิดปัญหาหมอกควันได้ และเมื่อสอบถามถึงข้อเสนอแนะต่อมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันของภาครัฐ คนเชียงใหม่ให้ข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้ 1) ควรมีมาตรการที่รัดกุมและเข้มงวดในการงดการเผาทุกประเภท 2) ควรจัดสรรงบประมาณและเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร ที่รับผิดชอบ ควบคุม ดูแล การเกิดไฟป่าในแต่ละพื้นที่ให้เพียงพอ 3) ควรทำการรณรงค์และปลูกจิตสำนึกให้แก่คนในชุมชนร่วมใจกัน ลด งดการเผา เพื่อลดปัญหาหมอกควันภาคเหนือ