คนไทย ร้อยละ 74.68 เห็นด้วยกับการนำกัญชามาเป็นยารักษาโรค และร้อยละ 61.78 ย้ำ !!! เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ

        ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยาการณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,426 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2561 ในหัวข้อ “คนไทยคิดเห็นอย่างไรกับการนำกัญชามาใช้เป็นยารักษาโรค” มีวัตถุประสงค์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชาให้สามารถใช้เป็นยารักษาโรค โดยมีผลการสำรวจดังต่อไปนี้ จากการสอบถามความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชา พบว่า อันดับ 1 (ร้อยละ 64.03) เห็นว่ากัญชาเป็นยาสูบประเภทหนึ่งคล้ายบุหรี่ที่คนสมัยก่อนใช้สูบผสมกับยาสูบ อันดับ 2 (ร้อยละ 59.68) เห็นว่า กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ อันดับ 3 (ร้อยละ 45.86) เห็นว่ากัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารบางประเภท และอันดับ 4 (ร้อยละ 10.73) เห็นว่ากัญชาเป็นยารักษาโรค การสอบถามประเด็นการผลักดันให้กัญชาสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้นั้นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นด้วย ร้อยละ 74.68 ซึ่งได้ให้เหตุผลไว้ว่า อันดับ 1 (ร้อยละ 61.78) เห็นว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ยานำเข้าจากต่างประเทศได้ อันดับ 2 (ร้อยละ 59.75) เห็นว่าสารที่พบในกัญชาสามารถนำมาวิจัยและผลิตเป็นยารักษาโรคได้ และอันดับ 3 (ร้อยละ 52.66) เห็นว่าปัจจุบันกัญชาเป็นที่ยอมรับว่าเป็นของถูกกฎหมายในบางประเทศแล้ว โดยมีเพียงร้อยละ 25.32 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยกับการนำกัญชามาใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งได้ให้เหตุผลไว้ว่า อันดับ 1 (ร้อยละ 17.95) กัญชายังคงเป็นพืชเสพติดให้โทษ อันดับ 2 (ร้อยละ 13.11) อาจเป็นการเพิ่มจำนวนผู้เสพภายในประเทศ และอันดับ 3 (ร้อยละ 11.92) หน่วยงานที่ดูแลและควบคุมในเรื่องนี้ยังไม่เข็มแข็ง อาจเกิดการลักลอบการกระทำความผิดได้ในที่สุด

ผลสำรวจโพลล์ล่าสุด