ประชาชน ร้อยะ 65.50 รับทราบสถานการณ์ปัญหาบริษัทประกันบางแห่งขอ “เลิกกิจการ” และร้อยละ 70.25 แนะภาครัฐควรมีการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการทำประกันให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้น!!

        

เขียนโดย: นางสาวเบญจวรรณ  จันทร์แก้ว

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,546 ราย ระหว่างวันที่ 16-27 กุมภาพันธ์ 2565 ในหัวข้อ “ความคิดเห็นของคนไทยต่อบริษัทประกัน..ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นต่อการให้บริการของบริษัทประกัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลการสำรวจความคิดเห็น พบว่า ประชาชน ร้อยละ 65.50  ทราบข่าวสถานการณ์ปัญหาของบริษัทประกันบางแห่งที่มีการเลิกกิจการ โดยให้เหตุผลว่า มีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงตนเองและบุคคลที่รู้จักได้รับการแจ้งบอกเลิกกรมธรรม์จากบริษัทประกัน ส่วนอีกร้อยละ 34.50 ยังไม่ทราบข่าว 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 พบว่าประชาชน ร้อยละ 39.43 ได้รับผลกระทบจากการประสบปัญหาของบริษัทประกัน เช่น การบอกเลิกสัญญากรมธรรม์หรือผลกระทบจากการรับผลประโยชน์จากประกันอื่นๆ เป็นต้น ส่วนร้อยละ 60.57 ไม่ได้รับผลกระทบด้านข้อเสนอแนะสำหรับการดำเนินงานของบริษัทประกัน อันดับ 1 ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐมีการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการทำประกันให้แก่ประชาชน (ร้อยละ 70.25) อันดับ 2 ควรปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ ขั้นตอน และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกรณีที่ทำประกันให้มีความสะดวกมากขึ้น (ร้อยละ 61.00) และอันดับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (คปภ.) ต้องคุ้มครองและกำกับติดตามการรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น (ร้อยละ 59.18)

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาได้กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการขอรับผลประโยชน์จากกรณีทำประกันโควิด-19 โดยเฉพาะประกันโควิดในรูปแบบ เจอ-จ่าย-จบ จากข้อมูลยอดการเครมสินไหมประกันโควิด-19 ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 ที่มูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทประกันเริ่มประสบปัญหาฐานะทางการเงินไม่มั่นคง จนเกิดการทยอยประกาศ “เลิกกิจการ” ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลิกกิจการของบริษัทประกัน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่ทำประกันกับบริษัทประกันไว้ รวมถึงกระทบต่อระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งจากผลสำรวจมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประสบปัญหาจากการเลิกกิจการของบริษัทประกัน ร้อยละ 39.43 ซึ่งเกิดจากตนเองหรือคนที่รู้จักถูกบอกเลิกกรมธรรม์หรือไม่ได้รับการชดเชยสินไหมทดแทนจากการขอรับผลประโยชน์ โดยได้มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานภาครัฐควรมีการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการทำประกันให้แก่ประชาชน รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ ขั้นตอน และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกรณีที่ทำประกันให้มีความสะดวกมากขึ้น และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำประกันโควิด ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการกำกับดูแลผู้ซื้อประกันและมาตรการสำหรับกำกับดูแลบริษัทประกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการประกอบกิจการ ซึ่งหากเกิดการ “เลิกกิจการ” ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้เอาประกันตามมาอย่างแน่นอนทั้งทางตรงและทางอ้อม

ผลสำรวจโพลล์ล่าสุด