เยาวชนร้อยละ 93.97 เห็นด้วยกับการเปิดเรียนแบบ On-site และร้อยละ 67.26 เชื่อมั่นต่อมาตรการป้องกัน โควิด–19 ในสถานศึกษา

        

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้สำรวจความคิดเห็นของเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ (ภาคเหนือ ร้อยละ 39.09 ภาคกลาง ร้อยละ 20.10  ภาคกลาง ร้อยละ 16.09 และภาคใต้ ร้อยละ 24.72) จำนวน 1,460 ราย ระหว่างวันที่ 7 – 17กรกฎาคม 2565  ในหัวข้อ “เยาวชนไทยกับความเชื่อมั่นต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นเยาวชนต่อความคิดเห็นต่อแนวทางการเปิดเรียนตามปกติ (On-site) ในสถานการณ์การระบาดของโควิด–19 ในปัจจุบัน

ผลการสำรวจความคิดเห็น พบว่าปัจจุบันเยาวชนร้อยละ 98.70 มีการฉีดวัคซีนโควิด–19 อย่างน้อย 1 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเพียงร้อยละ 1.30 เท่านั้นที่ยังไม่ได้มีการฉีดวัคซีนโควิด–19  เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการเปิดเรียนการเรียนการสอนตามปกติ (On-site) พบว่าเยาวชนร้อยละ 93.97 เห็นด้วยในการเปิดเรียนการสอนตามปกติ (On-site) เนื่องจากเห็นว่าการเรียนการสอนในห้องเรียนที่มีผู้สอนนั้นมีประสิทธิภาพสามารถเข้าใจเนื้อหาได้มากกว่าการเรียนการสอนแบบออนไลน์ที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์โรคโควิด–19 เริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว มีเพียงร้อยละ 6.03 เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยต่อการเปิดเรียนการสอนตามปกติ (On-site) เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์โรคโควิด–19 ยังไม่น่าไว้วางใจและกังวลว่าจะกลับมาระบาดรุนแรงได้อีก จากการสอบถามความเชื่อมั่นต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด–19 ของสถานศึกษาพบว่า เยาวชน ร้อยละ 67.26 มั่นใจต่อมาตรการป้องกันภายในสถานศึกษา เนื่องจากสถานศึกษามีมาตรการที่เข้มงวดในการคัดกรองนักเรียน และตัวผู้เรียนเองก็มีการปฏิบัติในการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากตลอดเวลา ในขณะที่ร้อยละ 32.74 ยังไม่มั่นใจต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด–19 ของสถานศึกษา เนื่องจากมาตรการของโรงเรียนบางแห่งนั้นไม่เข้มงวด และโรคโควิด-19 นั้นยังสามารถเกิดการแพร่กระจายได้อย่างต่อเนื่อง  และเมื่อสอบถามข้อเสนอแนะต่อการจัดการรวมทั้งวิธีป้องกันโรคโควิด–19 ในสถานศึกษาพบว่า 1) สถานศึกษาควรเพิ่มจุดบริการเจลแอลกอฮอล์และจุดล้างมือให้มากขึ้น 2) ควรมีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในบริเวณห้องเรียนและบริเวณอื่นๆ หลังจากที่มีการเรียนการสอนทุกครั้ง 3) ควรมีการเข้มงวดให้ผู้เรียนสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และ4) ควรมีการจำกัดปริมาณคนในการใช้บริการสถานที่ต่างๆ เช่น โรงอาหาร ห้องสมุด เป็นต้น 

ในปัจจุบันสถานศึกษาต่างๆ ทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาและอุดมศึกษาได้มีการเปิดเรียนการสอนตามปกติ (On-site) แล้ว โดยปัจจุบันสถานการณ์โรคโควิด–19 ของประเทศไทยนั้นได้มีแนวโน้มการระบาดที่เพิ่มขึ้นเห็นได้จากการรายงานจำนวนยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากการกลายพันธุ์ของไวรัสที่มีอยู่เดิม โดยพบว่าส่วนใหญ่นั้น เป็นการติดเชื้อระหว่างคนในครอบครัว ส่วนหนึ่งมาจากบุตรหลานที่ไปเรียนหนังสือแล้วนำเชื้อกลับมาแพร่ภายในครอบครัวทำให้เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรนั้นสถานศึกษาก็มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ เพราะได้เล็งเห็นถึงประสิทธิภาพของผู้เรียนเป็นหลัก เพราะจากการเรียนการสอนออนไลน์ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมานั้น อาจทำให้ผู้เรียนเสียโอกาสในการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก  ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะต้องมีการเตรียมหามาตรการรองรับหากสถานการณ์โรคโควิด–19 ของประเทศไทยเกิดการระบาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ไม่ส่งกระทบต่อการเรียนการสอนในสถานศึกษาในปัจจุบัน

ผลสำรวจโพลล์ล่าสุด